โครงการพัฒนารูปแบบบริการระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพิง รวมทั้งกลุ่มอายุอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน
ประเทศไทย
โครงการความร่วมมือทางวิชาการ
14 มกราคม 2556 – 31 สิงหาคม 2560
กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานอื่นๆ ในประเทศไทยที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับการมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีจำนวนผู้สูงอายุประมาณ 6.2 ล้านราย คิดเป็น 8.9 % ของจำนวนประชากรทั้งหมด และเป็นที่คาดการว่าไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในปี 2567 (UN DESA 2009) ซึ่งจะมีจำนวนประชากรผู้สูงวัยมากกว่า 14 % เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติขึ้น อันประกอบไปด้วยกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสร้างยุทธศาสตร์แห่งชาติในด้านสภาวะสูงวัย ในส่วนแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (2545 – 2564) ที่ได้มีการทบทวนในปี 2552 ได้ระบุถึงความสำคัญของการจัดตั้งการดูแลระยะยาวที่มีชุมชนเป็นฐานให้สามารถเข้าถึงและใช้งานได้จริงสำหรับผู้สูงอายุ โดยมุ่งเน้นที่รูปแบบการดูแลที่บ้าน รวมไปถึงการดูแลสุขภาพและการบริการทางสังคมไปพร้อมๆ กัน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีช่องว่างระหว่างแนวความคิดพื้นฐานและความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวอยู่ ทั้งนี้ กระทรวงที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นยังไม่สามารถหาวิธีการที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพื่อลดช่องว่างดังกล่าวได้ รวมทั้งแนวทางการพัฒนาระบบการดูแลที่เหมาะสมด้วย ซึ่งเหล่านี้ล้วนมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการเผยแพร่ไปทั่วประเทศ เพื่อเป็นการลดความไม่เท่าเทียมในการให้บริการการดูแลและหลีกเลี่ยงความเสื่อมถอยของคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
จากการดำเนินงานโครงการ CTOP หรือ "โครงการพัฒนารูปแบบบริการสุขภาพและสวัสดิการสังคมเชิงบูรณาการโดยชุมชนสำหรับผู้สูงอายุ" และการใช้ประสบการณ์อื่นๆ ทำให้รัฐบาลไทยพบว่ามีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ต้องการการดูแลระยะยาว (Long-term care) โดยผู้สูงอายุเหล่านี้มักได้รับการดูแลจากสมาชิกในครอบครัวและอาสาสมัครในชุมชนซึ่งยังไม่สามารถให้การดูแลอย่างเป็นระบบได้ ดังนั้น ระดับการดูแลดังกล่าวจึงไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร ช่องว่างระหว่างการดูแลที่ผู้สูงอายุควรได้รับกับการดูแลที่ผู้สูงอายุได้รับจริงจึงส่งผลให้เกิดปัญหา และนำไปสู่ความตระหนักในเรื่องความเท่าเทียมในการให้บริการการดูแลระยะยาวและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ
โครงการนี้ได้รับการริเริ่มขึ้นเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะทางนโยบายโดยอ้างอิงจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเพื่อลดช่องว่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น ข้อเสนอแนะทางนโยบายจะเป็นดังประเด็นต่อไปนี้
ข้อเสนอแนะทางนโยบายเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุระยะได้ถูกสะท้อนให้เห็นในนโยบายของรัฐบาลไทย
ข้อเสนอแนะทางด้านนโยบายสำหรับการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวเป็นที่ยอมรับทั้งจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
1: ข้อเสนอแนะทางนโยบาย
1-0 | จัดตั้งกลุ่มหารือด้านนโนบาย |
1-1 | ทบทวนสถานะการบังคับใช้กฎหมายและแผนงานด้านการดูแลระยะยาวในประเทศไทย |
1-2 | ผู้จัดทำนโยบายและนักวิชาการจากประเทศไทย เดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อสังเกตการณ์ และประชุมหารือ เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว |
1-3 | ผู้จัดทำนโยบายและนักวิชาการจากประเทศญี่ปุ่น เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อประชุมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน เรื่องการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว |
1-4 | จัดการประชุมสัมมนาเรื่องการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้กับผู้จัดทำนโยบายและนักวิชาการ ของฝั่งไทย รวมไปถึงประเด็นเรื่องการจัดการทางด้านการเงิน โดยจะมีบุคคลากรจากทั้งฝั่งไทยและญี่ปุ่นเข้าร่วม |
1-5 | จากผลลัพธ์ของจากการหารือข้างต้น การลงพื้นที่ การจัดประชุมสัมมนา และรวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการให้บริการของ พื้นที่นำร่อง คณะกรรมการกลุ่มหารือด้านนโยบายฝ่ายไทยจะร่างข้อเสนอแนะทางนโยบายขึ้น |
1-6 | จัดการประชุมสัมมนาเรื่องการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวขึ้นในประเทศไทย และนำประสบการณ์ที่ได้รับจาก โครงการไปเผยแพร่ต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน |
2: โครงการนำร่องในการดำเนินงาน "รูปแบบการบริการต้นแบบ"
2-1 | ระบุหลักฐานและข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการเก็บรวบรวม <C>* |
2-2 | เลือกพื้นที่โครงการนำร่อง <C และ L> |
2-3 | ระบุผู้ที่เข้าร่วมโครงการและจัดตั้งคณะทำงานในแต่ละพื้นที่โครงการนำร่อง <L และ C> |
2-4 | จัดทำการสำรวจข้อมูลพื้นฐานในแต่ละพื้นที่ <C และ L> |
2-5 | ศึกษารายละเอียดของสถานการณ์การให้บริการการดูแลระยะยาวทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่น <C> |
2-6 | จัดทำร่าง “รูปแบบการบริการต้นแบบ” และร่างคู่มือการดำเนินงาน <C> |
2-7 | จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในระดับชุมชนเกี่ยวกับร่างรูปแบบในแต่ละพื้นที่ <C และ L> |
2-8 | ออกแบบและจัดเตรียมการฝึกอบรม สำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้ประสานงาน (ทรัพยากรที่จำเป็น วิทยากร หลักสูตรในการ
ฝึกอบรม และอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรม ฯลฯ)
<C และ L> *กิจกรรมนี้ประกอบไปด้วยกิจกรรมตามข้อ 3-1 และ 3-3 |
2-9 | ดำเนินการจัดจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้ประสานงานการจัดการการดูแล <L> |
2-10 | เตรียมจัดตั้งศูนย์บริการการดูแลต้นแบบในแต่ละพื้นที่ <L และ C> |
2-11 | จัดอบรมแก่ผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้ประสานงานการจัดการการดูแลในแต่ละพื้นที่ <C และ L> |
2-12 | จัดบริการการดูแลต้นแบบให้แก่ผู้สูงอายุที่มีความต้องการการดูแลระยะยาว <L และ C> |
2-13 | ติดตามผลกระทบของ “รูปแบบการบริการต้นแบบ” เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาตามข้อเท็จจริง ต่อไป <C และ L> |
2-14 | ติดตามการปฏิบัติการเพื่อนำมาทบทวนคู่มือการดำเนินงาน <C และ L> |
2-15 | สรุป “รูปแบบการบริการต้นแบบ” โดยอ้างอิงจากผลลัพธ์และประสบการณ์ของพื้นที่โครงการนำร่องทั้งหมด <C และ L> |
2-16 | วิเคราะห์ผลกระทบของ “รูปแบบการบริการต้นแบบ” โดยอ้างอิงจากข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เก็บรวบรวมจริง <C และ L> |
2-17 | จัดการประชุมสัมมนาระดับชาติเรื่อง "รูปแบบการบริการต้นแบบ" <C> |
3: การพัฒนาทรัพยากรบุคคล
3-1 | ออกแบบและจัดเตรียมการฝึกอบรม สำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้ประสานงาน (ทรัพยากรที่จำเป็น วิทยากร หลักสูตรใน การฝึกอบรม และอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรม ฯลฯ) |
3-2 | จัดการฝึกอบรมในประเทศญี่ปุ่นเรื่องการจัดการการดูแลและการบริการการดูแลอย่างเป็นมืออาชีพ ให้กับบุคคลากรทั้งจาก กระทรวงที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประสานงานการจัดการดูแลของโครงการในแต่ละพื้นที่ |
3-3 | ออกแบบและจัดเตรียมการฝึกอบรมสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุ (ทรัพยากรที่จำเป็น วิทยากร หลักสูตรในการฝึกอบรม และ อุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรม ฯลฯ) |
3-4 | จัดการอบรมและการประชุมเชิงปฏิบัติการภายในประเทศด้านทักษะการดูแลสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุ ให้แก่พื้นที่นำร่องของ โครงการทั้งหมด <C> |
"C" หมายถึง กระทรวงและหน่วยงานส่วนกลาง
"L" หมายถึง หน่วยงานส่วนท้องถิ่น
"C และ L" หมายถึง กระทรวงและหน่วยงานส่วนกลางจะดำเนินงานกิจกรรมต่างๆ โดยได้รับความช่วยเหลือ
จากหน่วยงานส่วนท้องถิ่น