2022-07-31
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 โครงการได้จัดพิธีลงนามบันทึกการประชุมเพื่อขยายระยะเวลาโครงการและการประชุมเฉพาะกิจโดยคณะกรรมการประสานงานร่วม ณ กรุงเทพมหานคร อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และหัวหน้าผู้แทนสำนักงานไจก้าประเทศไทยได้ลงนามในบันทึกการประชุมเพื่อขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีกเป็นเวลาสิบเดือน ซึ่งจะได้มีการแจ้งให้กรุงเทพมหานครได้รับทราบเพื่อขอรับการลงนามเป็นพยานจากปลัดกรุงเทพมหานคร (กรุงเทพมหานครได้ลงนามแล้วอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565)
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ล่างซ้าย) และหัวหน้าผู้แทนสำนักงานไจก้าประเทศไทย (ล่างขวา) กำลังลงนามในบันทึกการประชุม โดยมีผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการ (บนช้าย) และหัวหน้านักวิจัยโครงการ (บนขวา) ร่วมสังเกตการณ์
ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันหลังการประชุมการประสานงานร่วม
หัวหน้านักวิจัยโครงการกล่าวปิดการประชุมต่อผู้เข้าร่วมประชุม
นับแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 คณะปฏิบัติงานภารกิจซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกโครงการจากประเทศญี่ปุ่นได้ถูกส่งไปประเทศไทยเพื่อเริ่มดำเนินกิจกรรมอีกครั้ง ซึ่งได้หยุดปฏิบัติภารกิจไปก่อนหน้านี้อันเนื่องมาจากการระบาดโรคโควิด-19 นับแต่ปีพ.ศ. 2563 ในการนี้ ศาสตราจารย์ โยชิซึกุ ฮายาชิ หัวหน้านักวิจัยโครงการจากมหาวิทยาลัยชูบุ ได้จัดส่งทีมงานเพื่อไปปฏิบัติภารกิจในกรุงเทพมหานคร
ทีมงานเข้าเยี่ยมสถาบันการให้ความร่วมมือด้ายวิจัย เนคเทค
ศาสตราจารย์ โยชิซึกุ ฮายาชิ แลกเปลี่ยนแนวคิดด้านคุณภาพชีวิตกับนักวิจัยร่วม ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ทีมงานเข้าเยี่ยมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ในระหว่างการปฏิบัติงาน ศาสตราจารย์ ฮายาชิ ได้เสนอแนะรูปแบบสุขุมวิทซึ่งเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแผนงานรวมการขนส่งแก่ผู้มีส่วนได้เสียด้านการขนส่ง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร เพื่อขอรับความเห็นจากหน่วยงานดังกล่าวเกี่ยวกับรูปแบบสุขุมวิท
หัวหน้าผู้แทนสำนักงานไจก้าประเทศไทย (ซ้าย) และศาสตราจารย์ โยชิซึกุ ฮายาชิ (ขวา) แนะนำรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กให้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม (กลาง)
ศาสตราจารย์ โยชิซึกุ ฮายาชิ นำเสนอรูปแบบสุขุมวิทต่อผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม
ศาสตราจารย์ โยชิซึกุ ฮายาชิ นำเสนอรูปแบบสุขุมวิทต่อรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร